วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2554

" การเกษตรยุคใหม่ เพื่อสุขภาวะที่ปลอดภัย "


        ภัยแล้ง และ น้ำท่วม เป็นปัญหาที่มีมานานในพื้นที่หลายส่วนของประเทศไทย หากเราจะมอง
ในอีกมุมหนึ่งในการแก้ไขปัญหาโดยไม่เพียงแต่หาพืชที่ทนต่อความแห้งแล้งหรือรอฤดูกาลปลูก
เปลี่ยนมาเป็นการผลิตพืชที่เราสามารถควบคุมการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการหมุนเวียนน้ำ
กลับมาใช้ใหม่ได้ ไม่ต้องรอฟ้ารอฝน หรือการผลิตพืชที่มีราคาสูง และการจัดการศัตรูพืชที่ควบคุมได้
จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถนำมาใช้แก้ใขปัญหาทางการเกษตร ได้อย่างยั่งยืน...

“ ที่ใดมีน้ำ ที่นั้นมีชีวิต ”     จึงเป็นคำกล่าวที่สามารถพิสูจน์ได้จริงในทุกพื้นที่แม้จะมีน้ำแค่น้อยนิดก็ตาม

สิ่งที่จะได้รับจากการปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์
  - ความปลอดภัยต่อสุขภาพของเกษตรกร ปลอดสารเคมีกำจัดศัตรูพืช
  - การประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  - การฟื้นฟูนิเวศของดินและทรัพยากรธรรมชาติ
  - ผักที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
  - สามารถปลูกพืชได้ตลอดทั้งปีโดยไม่รอน้ำฝน หรือกลัวฝนตก
  - สร้างรายได้ ตลอดทั้งปี


การปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์ เป็นการนำวิทยาการสมัยใหม่มาปรับใช้ให้เข้ากับพื้นฐานทางด้าน
การเกษตร
      การทำให้ประสบความสำเร็จนั้นยังต้องใช้องค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น
     
1. ความใส่ใจของเกษตรกรเอง
      2. การศึกษาระบบการปลูก อย่างถ่องแท้
      3. การรวมกลุ่มของเกษตรกร


       การปลูกผักจะไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าไม่สามารถสร้างรายได้จากผลผลิตนั้นได้ ในระบบการปลูก
ผักไฮโดรโปนิกส์ เกษตรกรสามารถปลูกผักได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะฝนตก หรือขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเรา
สามารถควบคุมปัจจัยนั้นได้ทั้งหมดสามารถมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ตลอดทั้งปี  จึงได้เปรียบกว่าการปลูก
ผักบนพื้นดินทั่วไป
       การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์จึงเป็น " ทางเลือกใหม่ " แก่เกษตรกรที่ต้องการความมั่นคง รายได้ที่
ยั่งยืน  ปลอดภัยต่อผู้ปลูก ปลอดภัยต่อผู้ปริโภค และผลิตผลที่มีคุณภาพ
ดังคำกล่าวที่ว่า...
                 “ เกษตรกรแข็งขัน เป็นกระดูกสันหลังของชาติ
            ไทยจะเรืองอำนาจ เพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม”

ไม่มีความคิดเห็น: